โคมไฟเสาเตี้ยส่องสว่างตามทางเดิน โดยทั่วไปมีความสูงประมาณ 0.3-1 เมตร ใช้งานเป็นโคมไฟติดตั้งบนทางเดินให้แสงสว่างเพื่อความปลอดภัยหรือเพื่อความสวยงาม การให้แสงมีลักษณะเป็นจุดๆโดยกำหนดระยะห่างตามความเหมาะสมของสถานที่นั้นและควรเลือกใช้โคมไฟที่มีการกระจายแสงได้ดีและแสงจะต้องไม่แยงตาผู้ใช้งานวัสดุที่เลือกใช้โดยส่วนใหญ่ทำจากอลูมิเนียมเนื่องจากปลอดสนิมและมีน้ำหนักเบา และควรใช้หลอดไฟLED เนื่องจากโคมไฟBollard ส่วนใหญ่ต้องเปิดตลอดช่วงกลางคืน
โคมไฟเสาสูงเป็นโคมที่มีความสูงประมาณ 2 – 4 เมตร ที่ใช้ส่องทางเดินเป็นบริเวณกว้าง การกระจายแสงขึ้นอยู่กับความสูงของตัวโคมไฟและประเภทของหลอดไฟที่ใช้ยิ่งเสาไฟสูงก็ยิ่งจะกระจายแสงได้มากขึ้น ความสูงของเสาที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบด้านด้วยว่าความสูงพิจารณาแล้วจะไม่กีดขวางบริเวณรอบด้าน
โคมไฟฝังพื้นมีหลายขนาด โดยโคมไฟฝังพื้นมีแบบที่หน้าโคมเป็นรูปวงกลมและเป็นรูปสี่เหลี่ยม โคมไฟฝังพื้นขนาดเล็กนิยมใช้ฝังบริเวณบนทางเดินที่มีขนาดเล็กไม่กว้างมากนัก มักนิยมติดเพื่อให้สวยความกับพื้นที่นั้นๆ ส่วนโคมไฟฝังพื้นขนาดใหญ่เหมาะกับการให้แสงกับผนังอาคารภายนอกหรือเพื่อส่องเน้นวัตถุได้ การเลือกโคมไฟฝังพื้นควรมีค่า IP67
ไฟที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวๆมีเม็ดแอลอีดีเรียงต่อกัน หรือแอลอีดีแบบเส้นสามารถตัดแบ่งเป็นช่วงให้ขนาดพอดีกับพื้นที่ตามต้องการได้ สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่เป็นช่องขนาดเล็กให้ความสวยงามและช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ด้วย เช่น ติดใต้บันไดทางเดิน ทำให้เราสามารถมองเห็นขั้นบันไดได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้ไฟledแบบเส้นที่มีค่า IP65 ขึ้นไปเพระทนทานต่อความชื้นและฝุ่นละออง
โคมไฟฝังผนังเป็นโคมไฟประเภทที่ต้องทำช่องตรงผนังเพื่อที่จะฝังตัวโคมไปที่ผนัง จะเน้นส่องลงตามพื้นด้านล่าง ใช้ส่องทางเดินเพื่อให้แสงสว่างกับทางเดินเป็นหลัก ใช้ส่องเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับผนังและช่วยให้ผนังมีมิติและสร้างจุดสนใจให้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าของฝาผนังได้เช่นกัน
เป็นโคมไฟที่ใช้ติดกับผนัง เพื่อให้แสงตกแต่งผนังให้สวยงามหรือเพื่อให้แสงสว่างเพื่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของพื้นที่นั้น รูปแบบดวงโคมมีหลากหลายทั้งแบบ Modernสมัยใหม่ และแบบ Classic การให้แสงของโคมติดผนังมีหลายแบบเช่นโคมไฟกิ่งส่องขึ้นและลง หรือโคมไฟกิ่งให้แสงสว่างรอบโคม โดยปกติหากเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้งานตลอดทั้งคืนควรเลือกใช้หลอดไฟLED เพื่อช่วยประหยัดพลังงานได้
โคมไฟส่องต้นไม้เพื่อให้ความสวยความของต้นไม้โดยทั่วไปมีการให้แสง2แบบ คือแบบแสงกว้างสำหรับต้นไม้ทรงพุ่มกว้าง และแบบแสงมุมแคบสำหรับตันไม้ที่มีลำต้นสูงยาว การเลือกหลอดไฟส่องต้นไม้ควรคำนึงถึงความร้อนที่เกิดจากหลอดจะสร้างความเสียหายให้กับต้นไม้ได้ จึงควรเลือกใช้หลอดไฟLED ในปัจจุบันมีหลอดไฟ LED หลากหลายทั้งแบบมุมองศาแคบและมุมองศากว้าง และแบบมีกำลังไฟมากและน้อยตามขนาดต้นไม้และวัตถุประสงค์การส่องสว่าง การเลือกโคมไฟและชนิดหลอดไฟให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสวยงามได้ยิ่งขึ้น
เป็นโคมไฟที่ส่องสว่างในพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง เช่นสนามหญ้าหน้าบ้าน โคมไฟชนิดนี้เป็นโคมที่ให้ความสว่างสูงตำแหน่งติดตั้งควรหลีกเลี่ยงตำแหน่งที่แสงส่องเข้าตา โคมไฟFloodlight มีวัตถุประสงค์การใช้ที่หลากหลาย เช่น ส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยเวลากลางคืนโดยสามารถต่อเข้ากับสัญญาณกันขโมยได้ เมื่อมีสิ่งผิดปกติโคมไฟจะเปิดติดทันทีเพื่อมองเห็นสิงผิดปกติชัดเจน จึงควรเลือกใช้หลอดไฟLEDแทนหลอดชนิดเก่าเพราะไม่ต้องรอหลอดไฟstart up 5-10นาที
เป็นโคมไฟที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อที่จะป้องกันการรั่วซึมของน้ำ โคมไฟใต้น้ำส่วนใหญ่ต้องต่อผ่านหม้อแปลงเพื่อแปลงกระแสไฟฟ้าให้เหลือ 12V หรือ 24v เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัมผัสน้ำโดยตรง ในกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว วัสดุที่เลือกใช้นิยมใช้เป็นแสตนเลส ซึ่งทนการกัดกร่อนของน้ำได้ดี โคมประเภทนี้ออกแบบมาให้ใช้ใต้น้ำเพื่อให้น้ำช่วยระบายความร้อน จึงไม่ควรเปิดไฟหากลดระดับลงมาต่ำกว่าตำแหน่งการติดตั้งดวงโคม โคมไฟใต้น้ำแบ่งเป็น2แบบใหญ่ๆคือแบบฝังผนังและแบบติดลอย การเลือกใช้ดูตามความเหมาะสมของพื้นนี้นั้นๆ เช่นหากเป็นสระน้ำที่มีคนว่าย ไม่ควรใช้แบบติดลอยเพราะอาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้